หน้าแรก/แนะนำ/คู่มือสำหรับผู้เริ่มต้น/ฟิวเจอร์ส/เทรดแบบสปอต VS เทรดแบบฟิวเจอร์ส

เทรดแบบสปอต VS เทรดแบบฟิวเจอร์ส

บทความที่เกี่ยวข้อง
2025.04.10 MEXC
0m
แชร์ไปที่

บน MEXC MEXCer ไม่เพียงแค่สามารถซื้อคริปโตผ่านการเทรดแบบสปอต แต่ยังสามารถทำกำไรที่สูงขึ้นได้ผ่านการเทรดฟิวเจอร์ส โดยใช้เลเวอเรจได้สูงสุดถึง 300 เท่า ดังนั้น แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างการเทรดแบบสปอตและฟิวเจอร์ส? ผู้เทรดมีโอกาสทำกำไรต่างกันจากแต่ละประเภทการเทรด แต่ยังมีอะไรที่ทำให้ทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันอีก? หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณจะสามารถเข้าใจพื้นฐานของทั้งการเทรดแบบสปอตและฟิวเจอร์สได้

1. เป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกัน


เมื่อทำการเทรดแบบสปอตบน MEXC บรรดา MEXCer สามารถซื้อและขายคริปโตเคอเรนซี เช่น 1 BTC หรือ 1 ETH หลังจากที่ซื้อคริปโตเคอเรนซีผ่านการเทรดแบบสปอต MEXCers จะเป็นเจ้าของสินทรัพย์เหล่านั้น และสามารถโอนย้ายไปยังเครือข่ายบล็อกเชนต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการเทรดฟิวเจอร์ส MEXCer จะซื้อและขายสัญญาฟิวเจอร์สถาวร ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณซื้อสัญญาของ BTC/USDT 1,000 เหรียญ ส่วนนี้ของสินทรัพย์ของคุณจะไม่สามารถและจะไม่ถูกโอนผ่านเครือข่ายบล็อกเชนใด ๆ

2. ความหลากหลายในการเทรด


โดยทั่วไปแล้ว เฉพาะคู่การเทรดแบบสปอตที่ลิตต์บน MEXC เท่านั้นที่มีคู่การเทรดฟิวเจอร์สที่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ไม่ทุกรูปแบบคู่การเทรดแบบสปอตจะมีคู่การเทรดฟิวเจอร์สที่สอดคล้องกัน นอกจากนี้ ไม่ทุกรูปแบบคู่การเทรดฟิวเจอร์สที่รองรับเลเวอเรจ 300 เท่า เช่น MX token เป็นต้น

2.1 ความหลากหลายในการเทรด


บน MEXC กลไกการทำกำไรสำหรับการเทรดแบบสปอตเป็นตลาดแบบทางเดียว T+0 ซึ่งหมายความว่าผู้เทรดสามารถเปิดสถานะซื้อได้เท่านั้นและไม่สามารถเปิดสถานะขายได้ สถานะสามารถขายได้ทันทีหลังจากที่ซื้อไปแล้ว ในทางกลับกัน กลไกการทำกำไรสำหรับการเทรดฟิวเจอร์สเป็นตลาดแบบสองทาง T+0 ซึ่งอนุญาตให้ผู้เทรดถือตำแหน่งทั้งการซื้อและขาย สถานะสามารถปิดได้ทันทีหลังจากเปิดตำแหน่งแล้ว

2.2 เลเวอเรจ


การเทรดแบบสปอตไม่จำเป็นต้องใช้หรือรองรับเลเวอเรจ ขณะที่การเทรดฟิวเจอร์สจะมีเลเวอเรจที่สะท้อนผ่านมาร์จินเริ่มต้น เมื่อทำการเทรดฟิวเจอร์ส ผู้เทรดสามารถถือสถานะที่มีมูลค่ามากด้วยมาร์จินเริ่มต้นที่น้อย ทำให้สามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้

3. วิธีการเทรดที่แตกต่างกัน


เนื่องจากเป้าหมายการลงทุนที่แตกต่างกันระหว่างการเทรดแบบสปอตและฟิวเจอร์ส MEXCer จะเผชิญกับสถานการณ์การเทรดที่แตกต่างกันอย่างมากเมื่อพยายามทำกำไรด้วยวิธีการเทรดทั้งสองแบบ ถึงแม้ว่าจะมีบางสถานการณ์ที่การเทรดแบบสปอตและฟิวเจอร์สมีกลไกที่คล้ายกัน แต่ความแตกต่างระหว่างทั้งสองยังคงมีความสำคัญในหลายกรณี เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างในวิธีการเทรด เรามาดูทีละข้อจากที่ง่ายที่สุดไปจนถึงที่ซับซ้อนที่สุด

3.1 ความแตกต่างในสถานการณ์การเทรดก่อนการถือตำแหน่ง


3.1.1 วิธีการสั่งซื้อ


เมื่อเทรดสปอต ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้คำสั่งซื้อขายได้ 4 แบบ ได้แก่ ลิมิต ตลาด ทริกเกอร์ และโพสต์โอนลี่บนหน้าจอเทรด


บนหน้าจอการเทรดฟิวเจอร์ส ผู้ใช้งานจะพบกับตัวเลือกคำสั่งซื้อขายที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกใช้ได้ 5 แบบ ได้แก่ คำสั่งลิมิต ตลาด ทริกเกอร์ เทรลลิ่งสต็อป และโพสต์โอนลี่


หมายเหตุ: หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทคำสั่งซื้อขายในตลาดเทรดสปอตและฟิวเจอร์ส สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ MEXC Learn

3.1.2 ราคาชำระสัญญา


การเทรดสปอตเป็นการจับคู่คำสั่งซื้อขายเพื่อส่งมอบสินทรัพย์ทันที ดังนั้นราคาล่าสุดจึงถือเป็นราคาชำระราคาสำหรับการเทรดสปอต

ราคาชำระสัญญาฟิวเจอร์สจะแตกต่างจากการเทรดแบบสปอต โดย MEXC ใช้ระบบการคำนวณราคายุติธรรมที่ออกแบบมาเฉพาะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการถูกล้างพอร์ตโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจสูง

3.1.3 โหมดถือตำแหน่ง


บน MEXC การซื้อขายแบบสปอตจะไม่มีการตั้งค่าโหมดการถือครองตำแหน่งโดยเฉพาะ แต่ในการเทรดฟิวเจอร์ส ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหมดการถือตำแหน่งได้หลากหลายมากขึ้น เช่น โหมดสองทิศทางและโหมดหนึ่งทิศทาง


3.1.4 โหมดเลเวอเรจ


เช่นเดียวกันกับโหมดการถือตำแหน่ง การเทรดแบบสปอตจะไม่มีฟีเจอร์การเทรดด้วยเลเวอเรจ แต่ในการเทรดฟิวเจอร์ส การใช้เลเวอเรจถือเป็นเรื่องปกติ และบน MEXC ก็เปิดให้ผู้ใช้งานเลือกโหมดเลเวอเรจได้ 2 แบบ ได้แก่ โหมดง่าย และ โหมดขั้นสูง เพื่อให้เหมาะกับระดับความชำนาญและกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ผู้ใช้งานควรตั้งค่าโหมดเลเวอเรจให้เรียบร้อยก่อนเปิดสถานะ เช่นเดียวกับการตั้งค่าโหมดถือตำแหน่ง


3.2 สถานการณ์การเทรดรูปแบบต่าง ๆ ขณะถือตำแหน่ง


3.2.1 วิธีการส่งคำสั่งซื้อขายแบบต่าง ๆ


ในการเทรดแบบสปอต ผู้ใช้งานสามารถเลือกคำสั่งซื้อขายได้ 4 ประเภทบนหน้าจอเทรด ได้แก่ คำสั่งลิมิต ตลาด สต็อปลิมิต และ OCO (One-Cancels-the-Other)


ในหน้าต่างเทรด Futures คุณจะพบตัวเลือกในการตั้งคำสั่งซื้อขายที่หลากหลายมากขึ้น โดยสามารถเลือกใช้คำสั่งได้ทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่ คำสั่งลิมิต ตลาด ทริกเกอร์ คำสั่งหยุดขาดทุนแบบลากตามราคาและโพสต์โอนลี่ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมต่าง ๆ ที่สามารถใช้งานเพิ่มเติมได้ เช่น การตั้งจุด TP/SL (ทั้งแบบ [ตั้ง TP/SL ให้ทั้งตำแหน่ง] และแบบ [ตั้ง TP/SL แยกบางส่วน]), ฟังก์ชัน [ปิดสถานะแบบด่วน] รวมถึงฟังก์ชัน [ปิดสถานะขาย] / [กลับทิศทาง] อีกด้วย



4. บทสรุป


สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกวิธีการเทรด คือ ต้องมั่นใจว่าวิธีนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนของคุณ:

หากผู้ใช้งาน MEXC เลือกใช้ทัศนคติการลงทุนที่ระมัดระวังตามทุนและความชอบความเสี่ยงของตน การเทรดแบบสปอตจะเหมาะสมกับความต้องการของพวกเขา เนื่องจากการเทรดสปอตไม่มีความเสี่ยงในการถูกล้างพอร์ต นอกจากนี้ในตลาดสปอต การยกเลิกรายการหรือการล่มของราคาโทเค็นเกิดขึ้นได้ยาก

หาก MEXCer ท่านใดรู้สึกว่าการลงทุนในเหรียญบางตัว (เช่น BTC) มีต้นทุนสูงเกินไป และกังวลว่าหากราคาขึ้นไม่ต่อเนื่องยาวๆ จะทำกำไรได้ยาก ก็สามารถลองเปลี่ยนมาเทรดฟิวเจอร์สได้ เพราะการเทรดแบบฟิวเจอร์สจะช่วยให้ทำกำไรได้มากขึ้นในเวลาที่สั้นกว่า แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องระมัดระวังและวางแผนให้ดี เพราะหากตัดสินใจผิดพลาดหรือใช้งานผิดวิธี ก็อาจเกิดความเสี่ยงสูงจนถูกล้างพอร์ตได้เช่นกัน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: เนื้อหานี้มิได้เป็นคำแนะนำด้านการลงทุน ภาษี กฎหมาย การเงิน การบัญชี ที่ปรึกษา หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด อีกทั้งไม่ได้เป็นการแนะนำให้ซื้อ ขาย หรือถือครองสินทรัพย์ใด ๆ ทั้งสิ้น เรียนรู้ MEXC จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลประกอบการศึกษาเท่านั้น มิได้เป็นคำแนะนำในการลงทุนในรูปแบบใด กรุณาศึกษาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน การตัดสินใจลงทุนทั้งหมดถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้งานแต่เพียงผู้เดียว และไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับแพลตฟอร์ม